ข้อมูลโภชนาการของซอสมะเขือเทศ เป็นเครื่องปรุงรสที่ทำจากมะเขือเทศซึ่งมักใช้กับอาหารยอดนิยมอย่างเฟรนช์ฟรายส์หรือฮอทดอก อาหารยอดนิยมนี้อาจมีส่วนผสมอื่นๆ นอกเหนือจากมะเขือเทศเข้มข้น เช่น น้ำส้มสายชู เกลือ เครื่องเทศ และแม้แต่น้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีฟรุกโตสสูง
ซอสมะเขือเทศอาจเป็นแหล่งของแคลอรี่ น้ำตาล และโซเดียมที่เพิ่มเข้ามา แต่เนื่องจากโดยปกติแล้วจะไม่บริโภคในปริมาณมาก จึงสามารถรวมอยู่ในอาหารเพื่อสุขภาพได้
ข้อมูลโภชนาการของหญ้าฝรั่น สำหรับผิวและสุขภาพ
ข้อมูลโภชนาการของซอสมะเขือเทศ
- คาร์โบไฮเดรต
ซอสมะเขือเทศที่ให้บริการโดยทั่วไปให้พลังงาน 15 แคลอรีและมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 4 กรัม คาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่มาจากน้ำตาล โดยมีไฟเบอร์ต่ำกว่ากรัม ซอสมะเขือเทศหนึ่งห่อจะมีขนาดเล็กกว่าช้อนโต๊ะ (10 กรัม) ดังนั้นจึงมีแคลอรี คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลน้อยกว่า
ปริมาณน้ำตาลในเลือดโดยประมาณของซอสมะเขือเทศหนึ่งช้อนโต๊ะคือ 2 ทำให้เป็นอาหารที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ ปริมาณน้ำตาลในเลือดคำนึงถึงขนาดส่วนหนึ่งเมื่อประเมินผลกระทบของอาหารต่อระดับน้ำตาลในเลือด
- ไขมัน
ซอสมะเขือเทศมีไขมันต่ำมาก โดยให้เพียง 0.02 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
- โปรตีน
ซอสมะเขือเทศยังมีโปรตีนต่ำเพียง 0.2 กรัมต่อหนึ่งช้อนโต๊ะ
- วิตามินและแร่ธาตุ
เนื่องจากซอสมะเขือเทศบริโภคในปริมาณที่น้อย จึงไม่เป็นแหล่งของสารอาหารรองที่ดี มะเขือเทศมีวิตามินซีและวิตามินเอสูง และยังเป็นแหล่งวิตามินเค โพแทสเซียม และแมงกานีสที่ดีอีกด้วย (ขึ้นอยู่กับปริมาณที่บริโภค) แต่คุณไม่น่าจะบริโภคซอสมะเขือเทศมากพอที่จะได้รับสารอาหารเหล่านี้ในปริมาณมาก
- แคลอรี่
อีกครั้ง เนื่องจากซอสมะเขือเทศมีแนวโน้มที่จะบริโภคในปริมาณน้อย จึงมักไม่ใช่แหล่งแคลอรีที่มีนัยสำคัญ หนึ่งช้อนโต๊ะมี 15 แคลอรี
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
อาหารอย่างซอสมะเขือเทศที่บริโภคในปริมาณที่น้อยมากนั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของคุณอย่างไรก็ตาม มีบางแหล่งที่ส่งเสริมประโยชน์ต่อสุขภาพของซอสมะเขือเทศ การตรวจสอบการอ้างสิทธิ์และวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังอาจเป็นประโยชน์ ในหลายกรณี การศึกษาที่อ้างถึงไม่สนับสนุนประโยชน์ต่อสุขภาพของซอสมะเขือเทศอย่างแท้จริง
บทความโดย : ufa168
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *